Forward ชื่อเรื่องเดิม 'คู่มือ 3 นาทีสู่การรวมกัน: การเปิด Testnet อยู่ใกล้

ในวันที่ 17 เมษายน โครงการคริปโต Converge ได้เผยแพร่ข้อมูลเฉพาะทางเทคนิคเบื้องต้นและแผนงานการพัฒนาร่วมกันโดย Ethena Labs และ Securitize โดยเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมที่ออกแบบขึ้นเพื่อเชื่อมต่อการเงินด้านเทรดิชั่น (TradFi) และ DeFi โดย Converge ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพสูง การรักษาความปลอดภัยในระดับสถาบันและความเข้าใจง่ายต่อผู้ใช้ มีแผนที่จะเปิดตัว mainnet ในปีนี้และส่งเสริมการใช้งานแอปพลิเคชันทางการเงินขนาดใหญ่ บทความนี้จะอธิบายข้อมูลเทคนิค จุดเด่นของแผนงานการพัฒนาและผลกระทบที่เป็นไปได้ของ Converge

(ซ้ายคือ ประธานบริหารของ Securitize ขวาคือ ประธานบริหารของ Ethena Labs)

1. พัฒนาขึ้นโดย Ethena Labs และ บริษัทเทคโนโลยีทางการเงิน Securitize ร่วมกัน

Converge เป็นความพยายามร่วมกันระหว่าง Ethena Labs และบริษัทฟินเทค Securitize ซึ่งวางตําแหน่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่มีปริมาณงานสูงซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนโทเค็นของสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงและแอปพลิเคชัน DeFi โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดเงินทุนสถาบันเข้าสู่ระบบนิเวศของ crypto ผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการปฏิบัติตามกฎระเบียบในขณะที่มอบประสบการณ์ DeFi ที่มีประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้รายย่อย วิสัยทัศน์หลักของมันคือการทําลายอุปสรรคระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมและ crypto ส่งเสริมการไหลเวียนของเงินทุนและการรวมตลาดอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก

Ethena Labs สะสมประสบการณ์ DeFi ที่มีความรวดเร็วด้วยการเติบโตของ USDe (มูลค่าตลาดเกิน 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ, อยู่อันดับสามในสกุลเงินคงที่ขนาดใหญ่ที่สุด), ในขณะที่ Securitize มีความเชี่ยวชาญทางด้านความปลอดภัยและความชำนาญทางด้านการปฏิรูปสินทรัพย์ในการทำ Tokenization. ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายทำให้ Converge มีข้อได้เปรียบที่เป็นเอกลักษณ์: ไม่เพียงแต่สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เข้มงวดของสถาบันที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและความปฏิบัติตามกฎหมาย, แต่ยังสามารถให้ความเป็นเปิดเผยและนวัตกรรมของ DeFi ได้อย่างเชื่อถือได้

2. โซ่ EVM ที่มีประสิทธิภาพสูงพร้อมกับ USDe และ USDtb ในการคิดค่าธรรมเนียมแก๊ส

เครือข่าย Converge จะสนับสนุนทั้งการประยุกต์ใช้ DeFi โดยไม่จำกัดการอนุญาต และผลิตภัณฑ์ระดับสถาบันที่มีการอนุญาต โดยบรรลุการรวมกันของโครงสร้างการเงินดั้งเดิมและโครงสร้างจากการเข้ารหัสเดียวกันบนโซ่เดียวกัน Converge's โครงสร้างเทคนิคถูกออกแบบขึ้นรอบ 3 ที่สำคัญได้แก่ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และประสบการณ์ผู้ใช้ ต่อไปคือ การตีความอธิบายอย่างละเอียดของข้อมูลเทคนิคหลัก

ประสิทธิภาพสูง EVM

Converge ใช้สถาปัตยกรรมที่ใช้ Ethereum Virtual Machine (EVM) เพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้กับระบบนิเวศ DeFi ที่มีอยู่ในขณะที่บรรลุประสิทธิภาพสูงพิเศษผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพที่กําหนดเอง เครือข่ายจะบรรลุเวลาบล็อกดั้งเดิมที่ 100 มิลลิวินาทีเมื่อเปิดตัวและปริมาณงานสูงสุด 100 ล้านก๊าซ/วินาที (Mgas/s) แผนงานแสดงให้เห็นว่าภายในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 เวลาบล็อกจะลดลงอีกเหลือ 50 มิลลิวินาทีและปริมาณงานคาดว่าจะสูงถึง 1 พันล้านก๊าซ / วินาที (Gigagas / s) เมตริกประสิทธิภาพนี้สูงกว่าเครือข่ายเลเยอร์ 1 และเลเยอร์ 2 ที่มีอยู่ส่วนใหญ่และเพียงพอที่จะรองรับธุรกรรมทางการเงินขนาดใหญ่และการดําเนินการสัญญาอัจฉริยะที่ซับซ้อน

การผสมกันของ Arbitrum และ Celestia

Converge บรรลุความล่าช้าต่ำและขยายขยายได้สูงโดยการรวมเทคโนโลยี rollup ของ Arbitrum และ Celestia's data availability layer Arbitrum ให้การประมวลผลธุรกรรมที่มีประสิทธิภาพและสภาพแวดล้อมการดำเนินการสมาร์ทคอนแทรคที่ Celestia ลดต้นทุนเครือข่ายโดยการแยกชั้นเก็บข้อมูล การให้ค่าธรรมเนียมธุรกรรมเป็นคงที่และสามารถคาดเดาได้ การออกแบบแบบโมดูลนี้ช่วยให้ Converge สมดุลประสิทธิภาพกับต้นทุน ทำให้มันเหมาะสำหรับการใช้ในหลักสูตรสถาบัน

Stablecoin เป็นค่าธรรมเนียม Gas

เพื่อเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้ Converge ใช้ stablecoins เช่น USDe และ USDtb สำหรับค่าธรรมเนียมการเดินเงิน แทนที่จะใช้ native tokens ที่เปลี่ยนแปลงได้ อันตราย การออกแบบนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถประมาณค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและชำระค่าธรรมเนียมในรูปแบบเงิน USD โดยไม่มีความไม่แน่นอนจากระดับราคาของ cryptocurrencies นอกจากนี้ เครือข่ายยังสนับสนุนมาตรฐานการสรุปบัญชี ERC-7702 เพื่อความง่ายในการดำเนินการกระเป๋าเงินและการลดจุดปวดจากการอนุมัติโทเค็น ERC-20 และการจัดการค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อน

Converge Validator Network (CVN)

Converge เปิดตัว Validator Network (CVN) ที่ไม่เหมือนใครซึ่งรักษาความปลอดภัยเครือข่ายผ่านการปักหลักโทเค็น ENA ของ Ethena CVN ใช้รูปแบบการตรวจสอบที่ได้รับอนุญาต (PoS, ชุดสิทธิ์) รวมกับกลไก KYC / KYB (รู้จักลูกค้า / ธุรกิจของคุณ) เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ตรวจสอบมีคุณสมบัติตรงตามข้อกําหนด การออกแบบนี้มีเป้าหมายเฉพาะสําหรับผู้ใช้สถาบันเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามข้อกําหนด ในเวลาเดียวกันเครือข่ายใช้สถาปัตยกรรมสองชั้น: เครือข่ายหลักควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงอย่างเคร่งครัดและเลเยอร์แอปพลิเคชันรองรับอินเทอร์เฟซที่ไม่ได้รับอนุญาตจากตัวเลือกเพื่อให้นักพัฒนามีความยืดหยุ่น ในการเข้าร่วม CVN ผู้ตรวจสอบจะต้องเดิมพันโทเค็นการกํากับดูแลของ Ethena, ENA ทีมงานระบุว่า CVN จะเปิดตัวไม่นานหลังจากการเปิดตัวเมนเน็ต

ตัวควบคุมลำดับ G2 ที่ปรับแต่ง

Converge ใช้ตัวจัดลำดับ G2 ที่ปรับแต่งโดย Conduit ซึ่งได้รวมเข้ากับหรือบทความเทคโนโลยี Arbitrum เพื่อให้การจัดลำดับธุรกรรมและการยืนยันมีประสิทธิภาพ ตัวจัดลำดับนี้เป็นส่วนสำคัญในการบรรลุเวลาบล็อก 100 มิลลิวินาทีและประสิทธิภาพสูงมาก เพื่อให้มั่นใจในความเสถียรของเครือข่ายภายใต้สถานการณ์ภาระไหลขึ้น

3. Testnet ถูกเปิดใช้ในสัปดาห์หน้า และ mainnet ถูกวางแผนไว้สำหรับไตรมาสที่ 2

Converge ยังประกาศแผนงานปี 2025 ของตน ซึ่งระบุโครงการหลักจากการใช้งานเทสเน็ตไปจนถึงการเปิดตลาดหลัก เเบ่งออกเป็นขั้นตอนต่อไปนี้:

2025 Q2: การเปิดตัวเทสเน็ต

Testnet คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการในสัปดาห์หน้าเพื่อให้นักพัฒนามีโอกาสเข้าถึงอย่างเร็วทดสอบประสิทธิภาพของเน็ตเวิร์ก การติดตั้งสัญญาฉลากฉลองและฟังก์ชันการโต้ตอบของผู้ใช้ Testnet จะเน้นการยืนยันประสิทธิภาพจริงของเวลาบล็อก 100 มิลลิวินาทีและค่าธรรมเนียม Gas สำหรับ stablecoin

2025 Q2: การเปิดตัว Mainnet

ประธานบริหารของ Securitize คาร์ลอส โดมิงโก้ กล่าวในสัมภาษณ์ว่า Converge มีแผนการเปิดตัวเครือข่ายหลักก่อนสิ้นสุดไตรมาสที่สอง เครือข่ายหลักจะสนับสนุนผู้ใช้ทางสถาบันและการใช้งานทางการค้าปลีกโดยมีการให้ความสำคัญเริ่มต้นในการส่งเสริมการกระจาย USDe ในระดับสถาบัน (เช่นผ่านยานพาหนะวัตถุประสงค์พิเศษ SPV) และการพัฒนาแอปพลิเคชั่น DeFi

2025 Q4: อัปเกรดประสิทธิภาพ

โดยสิ้นสุดปี 2025 Converge มีแผนที่จะลดเวลาบล็อกลงเหลือ 50 มิลลิวินาทีและเพิ่มประสิทธิภาพให้เป็น 1 กิกกะแกะ/วินาที เพื่อตอบสนองความต้องการของสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกรรมทางการเงินแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ เครือข่ายจะนำเข้าเครื่องมือนักพัฒนามากขึ้น เช่น ฟังก์ชันหลีกเลี่ยงบัญชีที่ปรับปรุงและเทมเพลตสมาร์ทคอนแทรคเพื่อลดอุปสรรคการพัฒนา

4. สรุป

การเปิดตัวของ Converge มาในช่วงเวลาที่การเงินดั้งเดิมและ DeFi กำลังเข้าใกล้กัน โครงสร้างที่มีประสิทธิภาพสูงและการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับความปฏิบัติมอบข้อได้เปรียบที่ชัดเจนสำหรับการนำมาใช้ในสถาบัน ตัวอย่างเช่น ประธานบริหาร Franklin Templeton คุณ Jenny Johnson กล่าวว่าในมกราคม 2025 ว่ากรอบกฎหมายที่ชัดเจนจะขับเคลื่อนการรวมกันระหว่าง TradFi และ DeFi และกลไก KYC/KYB และโมเดลผู้ตรวจสอบที่ได้รับอนุญาตของ Converge จะตอบโจทย์แนวโน้มนี้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม Converge ก็เผชิญกับความท้าทาย รูปแบบผู้ตรวจสอบที่ได้รับอนุญาตอาจทำให้ชุมชนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการกลายเป็นส่วนกลาง แม้ว่าเลเยอร์แอปพลิเคชันของมันรองรับอินเตอร์เฟซที่ได้รับอนุญาต การควบคุมของเครือข่ายหลักยังคงมีการ Concentrated ในมือของผู้ตรวจสอบเพียงไม่กี่คน นอกจากนี้ ความสำเร็จในวัตถุประสงค์การดำเนินงานที่สูงอาจขึ้นอยู่กับความมั่นคงของ Arbitrum และ Celestia และข้อจำกัดทางเทคนิคใด ๆ อาจส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าของแผนโฆษณา

Converge แทนสิ่งที่เป็นโอกาสที่รวมนวัตกรรมเทคโนโลยีกับศักยภาพในการใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามความสำเร็จของมันยังต้องใช้เวลาในการทดสอบโดยเฉพาะเรื่องสภาพแวดล้อมทางกฎหมาย ความมั่นคงทางเทคนิคและการแข่งขันในระบบนิเวศ Converge ในปีถัดไปน่าจะมีประสิทธิภาพแน่นอนที่ควรติดตามอย่างใกล้ชิด

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ:

1. บทความนี้ถูกพิมพ์ใหม่จาก [ ForesightNews]. ส่งต่อชื่อเดิม 'A 3-Minute Guide to Converge: Testnet Launch Coming Soon' ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [1912212.eth, Foresight News]. If you have any objections to the reprint, please contact Gate Learnทีมจะจัดการกับมันโดยเร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. คำประกาศ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เป็นที่สอบถามใด ๆ

3. เวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn บทความที่ถูกแปลอาจไม่สามารถคัดลอก แจกจ่ายหรือลอกเลียนได้โดยไม่ระบุGate.io.