นับตั้งแต่เปิดตัว BTC ในปี 2009 แนวคิดของทองคําดิจิทัลได้สะท้อนอย่างลึกซึ้งกับผู้คนทั่วโลก ตลาด crypto ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลอดการเดินทาง 15 ปีของอุตสาหกรรม crypto BTC ในฐานะต้นกําเนิดของมันทั้งหมดถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างระบบการเงินแบบกระจายอํานาจใหม่ อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ BTC ยังคงได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นสินทรัพย์ทองคําดิจิทัลโดยมีคุณลักษณะการลงทุนเป็นข้อเสนอด้านมูลค่าที่โดดเด่นที่สุด อย่างไรก็ตามในฐานะรูปแบบสกุลเงินในอุดมคติ BTC ขาดในบางแง่มุมเนื่องจากไม่ได้ตระหนักถึงความเหนือกว่าอย่างเต็มที่ในเครือข่ายการชําระเงินแบบเพียร์ทูเพียร์ซึ่งดูเหมือนจะเบี่ยงเบนไปจากวิสัยทัศน์เริ่มต้นของ Satoshi Nakamoto

ด้วยการเพิ่มขึ้นล่าสุดในกิจกรรมในระบบ BTC ร่วมกับการอนุมัติ BTC ETFs นอกเชื่อมโยงโดย SEC และปัจจัยอื่น ๆ ระบบ BTC ได้เข้าเข้าสู่รอบใหม่ของการซุมเงินอย่างรวดเร็ว ความต้องการสำหรับการขยายอิโคซิสเต็มของ Bitcoin กลายมาเร่งด่วนขึ้น โดยการสร้าง Layer 2 networks อย่างไม่น่าสงสัยกลายเป็นทางเลือกยอดนิยม

BTCFi เป็นหัวข้อที่น่าสนใจเสมอในตลาดสกุลเงินดิจิทัล แต่ปัญหาการขยายขอบเขตของเครือข่าย BTC มักถูกจำกัดโดยข้อจำกัดของโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย เอกชนได้ระบุว่าอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลได้รับการรับรู้ว่ามีการแก้ปัญหาอย่างชัดเจนเพื่อปลดล็อคศักรินทร์ตลาดภายใต้ขอบเขตของการสร้างโปรโตคอล stablecoin ที่เสถียรและมีประสิทธิภาพ จากเครือข่าย BTC Layer 2 ที่มีอยู่เพื่อทำหน้าที่เป็นหลักฐานของการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เกี่ยวข้อง

โดยขึ้นอยู่กับความเห็นร่วมกันนี้ โปรโตคอล Satoshi คือครั้งแรกโปรโตคอลสเตเบิ้ลคอยน์ โปรโตคอลซาโทชิเข้ากันได้กับ BEVM ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นเดือนมีนาคมและเริ่มกิจกรรมที่เกี่ยวข้องบน Testnet บทความนี้จะคำแนะนำผู้อ่านผ่านด้านต่างๆของโปรโตคอลและวิธีการเข้าร่วมกิจกรรมที่ Testnet หวังว่าโดยเข้าใจ Satoshi ผู้อ่านจะได้รับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแนวโน้มในการพัฒนา BTC Layer 2

โปรโตคอลซาโตชิและ BEVM - โปรโตคอลการขยายและการนำมาใช้งานของ BTC

BEVM: Bitcoin Layer2 ที่เข้ากันได้กับประสบการณ์การพัฒนา EVM

หากผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัลเคยเคยเคล็ดลับโดยการใช้ชั้น BTC Layer 2 พวกเขาจะทราบถึง BEVM ซึ่งเป็นโซลูชัน L2 แบบ fully decentralized ซึ่งมีกลไกที่เข้ากันได้กับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ที่นี่ BTC ทำหน้าที่เป็น network gas และข้อมูลธุรกรรมถูกเก็บไว้บน BTC main network โดยการตรวจสอบธุรกรรมถูกย้ายไปที่ BTC light nodes

การเข้าใกล้ที่ BEVM ใช้วิธีการที่แตกต่างจาก Ethereum Rollups วิธีการตรวจสอบของโหนดแสงมีลักษณะเป็นเพียร์ทูเพียร์มากขึ้นในระหว่างการส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย BEVM ใช้เครือข่ายโซ่สาธารณะโดยตรงที่รองรับ WebAssembly (WASM) ซึ่งเร็วกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องจำลองเสมือน EVM แบบดั้งเดิม โหนดแสงของ BTC สามารถได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยตรงจากเครือข่าย BTC

การเปลี่ยนจาก Taproot เป็น BEVM เป็นการแก้ปัญหาใน Layer 2 ที่มีพื้นฐานทางเทคนิคสำหรับการทะลุขีดจำกัดของเครือข่าย BTC แบบดั้งเดิม โดยการให้ความสำคัญกับการพ้นจากข้อจำกัดของ BTC's multi-signature setup อัลกอริทึมลายเซ็นใหม่ทำให้สามารถรวมการทำธุรกรรมได้ ซึ่งลดปริมาณข้อมูลการทำธุรกรรมและต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ การผสมรวมของกรอบสัญญา MAST กับอัลกอริทึมลายเซนเจอร์ส่งมาตรการที่ยืดหยุ่นและมีความสามารถในการขยายขนาดมากขึ้น ซึ่งจะให้ชั้นที่ 2 มีความสามารถในการโปรแกรมและการขยายขนาดที่สูง

นอกจากนี้, เนื่องจาก BEVM เข้ากันได้กับ Ethereum Virtual Machine (EVM), มันสนับสนุนการพัฒนาโดยใช้แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินแบบหลักอย่าง Solidity และ Metamask ความเข้ากันได้นี้ให้ประสบการณ์ผู้ใช้ที่คล้ายกับ Ethereum โครงการ Testnet หลายรายการ รวมถึง Satoshi Protocol ได้ถูกใช้งานแล้วบน หน้าระบบนิเวศ BEVM.

ตำแหน่งหนี้ที่มีหลักประกัน (CDP)

ก่อนที่จะนำเสนอโปรโตคอลซาโตชิ จำเป็นต้องเข้าใจโปรโตคอล CDP (Collateralized Debt Position) ที่ใช้งาน

CDP หมายถึงตำแหน่งหนี้ที่มีการใช้หลักทรัพย์และถูกใช้ในโครงการต่าง ๆ ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น DeFi และ NFTFi ตั้งแต่มีขึ้นโดย MakerDAO โปรโตคอลของ Satoshi ยังนำโปรโตคอลนี้มาใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถฝาก BTC เป็นหลักทรัพย์และยืม stablecoin SAT โดยใช้กลไกของ SAT โปรโตคอลมุ่งหวังที่จะทำให้ราคาของโทเค็นเสถียร ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Likelihood ในขณะที่ถือ BTC

โปรโตคอลซาโตชิ: ปลดล็อค Likuidity ในระบบบิตคอยน์

ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ BTC ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและมูลค่าการลงทุนของมันกำลังเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่ในตลาดคริปโต แต่ยังในระบบการเงินดั้งเดิม โดยมีการอนุมัติ ETF สปอต BTC ล่าสุดยืนยันแนวโน้มนี้ อย่างไรก็ตาม ความคิดเดิมของ BTC ในฐานะเป็นสกุลเงินอุดมความยังไม่ได้แสดงความเหนือกว่าในเชิงนี้อย่างเต็มที่ สกุลเงินอุดมความควรจะมีลักษณะเช่นเป็นสื่อแลกเปลี่ยน หน่วยบัญชี และทรัพย์สิน

อย่างไรก็ตามค่าความเชื่อถือและค่าความเห็นร่วมของ BTC ยังทำให้มันเป็นการสนับสนุนค่าที่ยอมรับอย่างกว้างขวางสำหรับ stablecoins จึงจำเป็นต้องมีโปรโตคอล stablecoin ที่ใช้ BTC อย่างยิ่ง การพัฒนาของ BTC Layer 2 ได้เตรียมพื้นฐานทางเทคนิคและความปลอดภัยของเครือข่ายอย่างมั่นคงสำหรับโปรโตคอลเช่นนี้ ดังนั้น การเกิดขึ้นของโปรโตคอลซาโทชิสามารถถือว่าเป็นทันเวลา

ด้วยคุณลักษณะต่าง ๆ ของ BEVM ที่กล่าวมาข้างต้น โปรโตคอล Satoshi เป็นโปรโตคอล CDP แรกของระบบนี้ มีเป้าหมายที่จะให้ Likuiditas สำหรับ BTC โดยการใช้ SAT สกุลเงิน stablecoin ที่มีการสนับสนุนอย่างเต็มที่โดย BTC เป็นสินทรัพย์สำรองที่มีเกิน Satoshi Protocol จะสามารถปลดล็อคการใช้งานหลากหลายใน BTCFi (โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของ Bitcoin)

โมเดลพื้นฐานของโทเค็น SAT ช่วยให้ผู้ใช้มีสิทธิในการค้ำประกัน BTC เกินจำนวนที่กำหนดในโพรโทคอลและยืม stablecoin SAT ที่เชื่อมโยงกับ USD 1 สำหรับการใช้งานโดยไม่จำกัด โครงการนี้มีเป้าหมายที่เป็นไปได้ในการเพิ่ม Likelihood ในระบบ BTC ถึงล้านล้านดอลลาร์ หากประสบความสำเร็จ การมองโลกตลาดจะมีขอบเขตที่ใหญ่ และ stablecoin SAT เป็นไปตำแหน่งหลักในขั้นตอนแรก ให้ผู้ใช้เลือกตั้ง BTC

กลไกการทำงานของ SAT Stablecoin

การดำเนินการของ SAT ประกอบไปด้วยการมีหลักทรัพย์เกิน, กลไกการละลาย, และ กลไกอาร์บิทราชซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ร่วมกันของโปรโตคอลสกุลเงินคงทนในช่องว่าง DeFi อย่างไรก็ตาม, นี่คือครั้งแรกที่คุณสมบัติเหล่านี้ได้รับการนำมาใช้ภายในระบบ BEVM

การเอาประกันมากเกินไป:

ผู้ใช้ต้องรักษารัฐบาลการค้ำประกันขั้นต่ำที่มากกว่า 110% เมื่อเปิดตำแหน่งเพื่อหลีกเลี่ยงการละลาย กล่าวคือเมื่อยืม 100 SAT ผู้ใช้ต้องล็อก BTC มูลค่ามากกว่า 110% ของจำนวนที่ยืมเป็นหลักประกัน นั่นคือ 110 SAT มูลค่าของ BTC ทั้งหมด

แน่นอนราคาของ BTC จะเปลี่ยนแปลงตามการเคลื่อนไหวของตลาด หากมูลค่าของหลักทรัพย์ลดลงเนื่องจากการตกของราคา BTC ทำให้อัตราส่วนลงทุนลดต่ำกว่า 110% กลไกการล่วงละเมิดจะถูกเรียกใช้งาน โปรโตคอลจะใช้ SAT จาก Stability Pool (SP) ในการซื้อหลักทรัพย์ที่ถูกขายลงมูลค่าเพื่อชำระหนี้ของผู้กู้ ในราคาที่ลดหนัก

สระน้ำมั่นคง (SP):

SP เป็นกลไกสําคัญในการรับรองเสถียรภาพของโปรโตคอล Satoshi และให้สภาพคล่อง ผู้ใช้ที่ฝาก SAT ลงในกลุ่มความมั่นคงให้สภาพคล่องที่สอดคล้องกัน หากอัตราส่วนหลักประกันของผู้ใช้ต่ํากว่า 110% ทําให้เกิดการชําระบัญชีกระบวนการขายหลักประกัน BTC ส่วนลดเพื่อรับ SAT จะได้รับการสนับสนุนจาก Stability Pool

ผู้ให้ความสะดวกในการให้ความเห็น SAT ในสระน้ำที่มั่นคงสามารถซื้อ BTC ที่เป็นหลักประกันที่ถูกขายออกมาในราคาที่ถูกลด จากนั้นโปรโตคอลจะใช้ SAT ที่ได้จากหลักประกันที่ถูกขายออกเพื่อชำระหนี้ โดยให้แน่ใจว่าโปรโตคอลมีการให้ความปลอดภัยเสมอ

SAT Exchange และการแลกเปลี่ยน

เมื่อราคาของ SAT ต่ำกว่า USD 1 นักอวยพรสามารถซื้อ SAT ในตลาดและใช้กลไกการแลกเปลี่ยนของ Satoshi Protocol เพื่อแลก SAT ให้ได้มูลค่า USD 1 ของสินทรัพย์ BTC ได้ทุกเมื่อและขายได้สำหรับการอวยพร กลยุทธ์อวยพรนี้เกิดขึ้นเมื่อราคา SAT ต่ำกว่า USD 1 เพิ่มความต้องการสำหรับ SAT และผลักดันราคาของมันกลับมาที่ $1

เมื่อราคาของ Satoshi เกิน 1.1 ดอลลาร์ ผู้ทำการค้าแลกเปลี่ยนสามารถจำนอง BTC บนโปรโตคอล Satoshi เพื่อให้ยืม SAT และขายในตลาดเพื่อได้กำไร ทำให้เกิดความกดดันในการขายที่สอดคล้องกัน และผลัก SAT กลับไปต่ำกว่า 1.1 ดอลลาร์ ผู้ใช้ทุกคนสามารถทำ SAT ด้วยการฝากเงิน BTC เป็นหลักทรัพย์ และจ่ายอัตราดอกเบี้ยประจำปีคงที่ 4.5%

ข้างต้นเป็นลักษณะพื้นฐานของกลไกโปรโตคอลซาโตชิ. การที่จะใช้ฟังก์ชันเหล่านี้ได้ จำเป็นต้องมีการสนับสนุนทางเทคนิคจากนิเวศ BEVM เกี่ยวกับ BTC Layer2 solution SAT ซึ่งเป็น stablecoin ที่มีฐานเงินเป็น USD ที่พึงไว้วางใจ จาก BTC ต้องการการแก้ไขปัญหาเรื่องความมีสามารถในการขยายขนาดจากเครือข่าย BTC สำหรับสถานการณ์การซื้อขาย DeFi และฎีกาที่หลากหลาย

ในขณะที่โปรโตคอล stablecoin ต่าง ๆ มีอยู่ในตลาด crypto เป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ USD stablecoins ที่มีพื้นฐานบน BTC ไม่ได้ดำเนินงานได้ดีตามที่คาดหวังในปีที่ผ่านมา มีหลายเหตุผลที่ทำให้เช่นนี้เกิดขึ้น รวมถึง ข้อจำกัดของเครือข่าย BTC เองและตำแหน่งของ BTC ในตลาด crypto อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า BTC ถูกคิดค้นขึ้นเริ่มแรกเพื่อเป็นรูปแบบสมบูรณ์ของสกุลเงินโปรโตคอล Satoshiคุณลักษณะของอนาคตของโปรโตคอลของ BTC ในเชิงนี้คือการสำรวจวิสัยของมัน และมันแทนความสำเร็จล่าสุดในวงการคริปโตที่มีอยู่ บางทีมันอาจจะปลดล็อคตลาดความเป็นเหรียญแต่ละล้านดอลลาร์ที่มีอยู่ใน BTC จริง ๆ

Main-net BEVM จะเริ่มเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้

ในปัจจุบัน โปรโตคอลซาโตชิได้ยืนยันว่าได้รับการลงทุนจากมูลนิธิ BEVM Foundation และมีการเข้าร่วมของหลายบริษัทผู้ลงทุนชั้นนำในอุตสาหกรรมด้วยความเป็นทางการ Tweet โปรเจคที่โดดเด่นยังได้ถูกส่งต่อหลายครั้งโดย Tweet อย่างเป็นทางการของ BEVM

ตามปัจจุบันโปรโตคอลซาโตชิคาดว่าจะเปิดตัว BEVM Mainnet ในช่วงกลางเดือนมีนาคม และมีข่าวเรื่องการแจกเหรียญที่เป็นไปได้ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในโครงการแรกที่ได้รับการยืนยันว่าจะเปิดตัวบน BEVM ระบบ Mainnet มันได้ดึงดูดความสนใจมากมาย กิจกรรม Testnet และกิจกรรม Galxe กำลังเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน

กิจกรรมต่อเนื่องของโปรโตคอลซาโตชิแทนตัวเส้นทางกิจกรรมต่าง ๆ ภายในระยะเวลาเดียวกัน ที่ละเอียดออกแบบให้มีรางวัลที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม สามารถมองเห็นได้ว่าเป็นการอบรมระยะเชิงร้อนสำหรับโปรเจกต์ก่อนเปิดตัวบน BEVM mainnet

การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ สามารถทำให้ได้รับรางวัลในรูปแบบ OAT (Original Art Tokens) และ NFTs (Non-Fungible Tokens) ปัจจุบันรายละเอียดของประโยชน์เหล่านี้ยังไม่ชัดเจน แต่เป็นไปได้ว่าเกี่ยวข้องกับ SAT (Satoshi Protocol stablecoin) ประโยชน์จากการแจกส่ง SAT หรือการลดค่าธรรมเนียมในแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีความสม่ำเสมอที่ถูกนำมาใช้โดยโปรเจกต์ DeFi หลาย ๆ โปรเจกต์ในอดีต

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทําให้โปรโตคอล Satoshi แตกต่างจากโครงการ DeFi ก่อนหน้านี้คือ BTCFi เป็นสนามที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดโดยมีความคาดหวังในอนาคตที่ชัดเจนและการสร้างโซลูชัน BTC Layer2 ที่เกี่ยวข้องกําลังก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับสาขายอดนิยมในปี 2024 เช่น ETH Layer2 และ DePIN โซลูชัน BTC Layer2 ก็เป็นประเด็นที่ควรค่าแก่การใส่ใจเช่นกัน นอกจากนี้ Stablecoins ที่ใช้ BTC ยังเป็นตัวแทนของกลุ่มตลาดที่ไม่ได้ใช้ในอุตสาหกรรม Satoshi Protocol นําเสนอชุดกลไกการดําเนินงานที่ได้รับการตรวจสอบจากตลาดซึ่งคาดว่าจะนําไปสู่กิจกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการเปิดตัวบนเมนเน็ต BEVM

กิจกรรม Testnet และ Galxe

กิจกรรมเครือข่ายทดสอบ

หน้าร่วมสนุกกิจกรรม: https://app.satoshiprotocol.org/nft

Satoshi Testnet ได้รับประกาศ: @satoshi-protocol"">https://medium.com/@satoshi-protocol

รางวัลการเข้าร่วมกิจกรรม: Genesis Spark NFT

เวลาเริ่มและสิ้นสุดงาน: 3.6 22:00-3.18 22:00 (UTC+8)

ตามเว็บไซต์ทางการ ตราบใดที่ผู้ทดสอบมีสิทธิในการสร้างตำแหน่งและฝาก SAT เข้าสู่คลังเหรียญ ทุกที่อยู่สามารถรับสิทธิ์ Genesis Spark NFT อีกครั้ง โดยไม่จำกัดปริมาณทั้งหมด

ขั้นตอนในการเข้าร่วมกิจกรรม:

1. เข้าร่วมช่อง Discord อย่างเป็นทางการของ BEVM เพื่อเข้าถึงการทดสอบ BTC;

1. ใช้กระเป๋าสตางค์ Metamask และสลับไปยังเครือข่ายทดสอบ BEVM (Satoshi จะนำทางในการสลับโดยอัตโนมัติ);

1. ไปที่หน้าตำแหน่งและคลิกที่สร้างตำแหน่ง;

1. ฝาก BTC ทดสอบและยืม SAT - โปรดตรวจสอบว่าอัตราส่วนการจำนงสิทธิ์มีค่ามากกว่า 110% และยืมอย่างน้อย 18 SAT;

2. เลือกและคลิก อนุมัติ เพื่อยืนยันลายมือชื่อของกระเป๋าเงิน;

1. หลังจากที่การอนุมัติเสร็จสมบูรณ์ คลิกที่สร้างตำแหน่ง;

2. หลังจากยืม SAT สำเร็จ โปรดไปที่หน้า Stability Pool;

3. ป้อนจำนวนเงินฝาก SAT ที่สอดคล้อง แล้วคลิก ฝาก เพื่อยืนยัน;

1. ไปที่แคมเปญหลังจากเสร็จสิ้น;

2. หลังจากทำขั้นตอนข้างต้นเสร็จสิ้นแล้ว คุณจะเสร็จสิ้นกิจกรรมเครือข่ายทดสอบและได้รับสิทธิ์ในการทำ Mint NFT คลิก Mint เพื่อรับ Genesis Spark NFT

Genesis Spark เป็น NFT ตัวแรกที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการโดย Satoshi Protocol ซึ่งได้รับการตั้งชื่อและออกแบบมาเพื่อถ่ายทอดลักษณะโดยธรรมชาติของ BTC ว่าเป็นทองคําดิจิทัล แม้จะมีการพัฒนามา 15 ปี แต่ BTC ก็ถูก จํากัด ด้วยข้อ จํากัด ของเครือข่ายทําให้ไม่สามารถใช้งานเครือข่ายการชําระเงิน P2P ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและโซลูชันการปรับขนาดซ้ํา ๆ การทําธุรกรรมแบบเพียร์ทูเพียร์กับ BTC จึงเป็นไปได้ เมื่อใกล้ถึงจุดลงครึ่งหนึ่งที่สี่ความต้องการของตลาดสําหรับ BTC และการพัฒนาระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องก็พร้อมสําหรับการเติบโตอย่างมีนัยสําคัญ Stablecoin ที่ได้รับการสนับสนุนจาก BTC ที่ขับเคลื่อนโดย Satoshi Protocol ถูกกําหนดให้เป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนา BTCFi ดังนั้นการได้รับ Genesis Spark NFT ตั้งแต่เนิ่นๆ อาจพิสูจน์ได้ว่าเป็นการตัดสินใจลงทุนระยะยาวที่ชาญฉลาด

เหรียญ Galxe Events

หน้าร่วมกิจกรรม: https://galxe.com/YwrNUBkpFyTpkRJTcKmZcX

รางวัลการเข้าร่วมกิจกรรม: 25,000 ซาโตชิ Pioneer OAT

เวลาเริ่มและสิ้นสุดของกิจกรรม: 3.7 12:00-3.18 22:00 (UTC+8)

นอกจากกิจกรรม Testnet นอกจากนี้ Satoshi Protocol ได้เริ่มต้นกิจกรรมการเข้าร่วมหลายระบบบนแพลตฟอร์ม Galxe ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม กิจกรรมล่าสุดคือ Satoshi Pioneer โดยทำกิจกรรมที่กำหนดไว้หลายอย่าง คุณสามารถได้รับ Satoshis จำกัดจำนวน 25,000 มากที่สุด OAT และกิจกรรม Galxe ของ Pioneer เกี่ยวข้องกับกิจกรรม Testnet รวมถึงกิจกรรม Galxe ในอดีต ทั้งหมดมีทั้งหมด 4 รอบของ OAT ถูกเปิดตัว การกำหนดงานซับซ้อนขึ้น และวัตถุประสงค์คือเพื่อกรองผู้ใช้ที่ใช้งานจริงออก

ผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมสามารถใช้ Metamask เข้าสู่ระบบและเข้าไปSatoshi Pioneer OATหน้างาน โดยที่กิจกรรมนี้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเครือข่ายทดสอบมันรวมถึงงานทางสังคมในชุมชนต่างๆ เช่น X, Discord และ Telegram ผู้เข้าร่วมต้องเข้าร่วมชุมชนอย่างเป็นทางการของโครงการและตอบสนองกับสัญญา Satoshi ที่ถูกใช้งานอยู่บน BEVM Testnet ดังนั้น เส้นทางกิจกรรมมีความหลากหลายสูง และรางวัลที่เกี่ยวข้องแตกต่างจาก NFTs ที่มีให้ในกิจกรรม Testnet ผู้เข้าร่วมสามารถรับโทเคน Satoshi Pioneer OAT จำกัดได้

ในปัจจุบัน ประโยชน์ที่เฉพาะเจาะจงของโทเค็น OAT ในโครงการโปรโตคอล Satoshi ยังไม่ได้รับการประกาศ ซึ่งทำให้มีสถานะที่ลึกลับบ้าง อย่างไรก็ตาม โทเคน Galxe OAT ซึ่งเป็นโทเคนรางวัลที่กระจายอย่างทั่วไป สามารถเชื่อมโยงกับประโยชน์ที่หลากหลาย ดังนั้น การเก็บรวบรวมโทเคนเหล่านี้ในช่วงแรกของโครงการอาจมีประโยชน์มากมาย

สรุป

เมื่อเร็วๆ นี้โปรโตคอลซาโตชิได้ทำการเคลื่อนไหวที่สำคัญในตลาด โดยเป็นโปรโตคอลสเตเบิ้ลคอยน์ตัวแรกในระบบ BEVM ซึ่งมีเป้าหมายที่จะปลดล็อค Likuiditas มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ใน BTC ปัจจุบันโครงการนี้ยังเป็นหนึ่งในจุดเด่นสำคัญในระบบ BEVM โดยเป็น Solusi Skalabilitas yang Efektif สำหรับ BTC Layer2 BEVM ได้รับการพิจารณาว่าเป็นระบบนิเวศที่มีความเป็นมันในตลาดคริปโต ดังนั้น โปรโตคอลสเตเบิ้ลคอยน์เช่นซาโตชิโปรโตคอลที่มีการสนับสนุนทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพและมีความยืดหยุงอาจสร้างคลื่นในตลาดในอนาคต

หลังจากทั้งหมดนั้น เส้นทางเข้าสู่ตลาดที่ขึ้นอยู่บนเครือข่าย BTC ที่มีความหลากหลายและ Likuiditas มากขึ้นได้ถูกเปิดเผย ทำให้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะมุ่งมั่น

โปรโตคอลซาโทชิเครือข่ายทดสอบและกิจกรรมสื่อสังคมของชุมชนกำลังดำเนินการอยู่ และจะสุดท้ายถึงวันที่ 18 มีนาคม หลังจากที่ทำภารกิจต่าง ๆ เสร็จสิ้น คุณสามารถได้รับรางวัล NFT และ OAT การเข้าร่วมต้นแบบจะได้รับสิทธิพิเศษและคงทนมากขึ้นในอนาคต

ประกาศ

1. บทความนี้ถูกคัดลอกมาจาก [ TechFlow], ชื่อเรื่องต้นฉบับคือ “Understanding the BTC L2 Stablecoin New Protocol Satoshi Protocol in One Article”, ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [Satoshi Protocol], หากคุณมีข้อโต้แย้งใดๆกับการนำเผยแพร่ใหม่ โปรดติดต่อทีม Gate Learn, ทีมจะดำเนินการโดยเร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นเพียงมุมมองส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้น และไม่เป็นที่เป็นข้อเสนอแนะใด ๆ เกี่ยวกับการลงทุน

3. เวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn ที่ไม่ได้กล่าวถึงGate. io, บทความที่ถูกแปลอาจจะไม่สามารถทำสำเนา กระจาย หรือลอกเลียได้